ผู้หญิงสมัยใหม่ในยุคนี้สนใจธรรมะกันมากขึ้น เนื่องด้วยหลายเหตุปัจจัยเช่น จากสภาวะความเครียด ความผิดหวัง ความเบื่อหน่ายกับชีวิต ฯลฯ หรือบางคนต้องการสร้างบุญบารมีและต้องการหาความสงบสุขให้กับตัวเอง และบางคนต้องการค้นหาความหมายของชีวิต บางคนเห็นเพื่อนไปก็อยากไปบ้าง แต่ส่วนมากแล้วมาปฏิบัติธรรมเพื่อให้ชีวิตมีแต่สิ่งดีๆเข้ามา คนส่วนมากมักคิดว่าการปฏิบัติธรรมต้องไปเข้าวัด นั่งสมาธิและเดินจงกลม ซี่งจริงๆแล้ว มันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เกิดสมาธิได้ง่ายขึ้น ธรรมะนั้นก็เหมือนธรรมชาติ ไม่มีอะไรที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับวิธีที่ปฏิบัติ แต่จะปฏิบัติแบบไหนนั้นก็ต้องศึกษากันไปในแต่ละสถานที่ปฏิบัติธรรมนั้นๆ แต่ละที่ก็มีวิธีและรูปแบบที่ยากง่ายต่างกันไป เคยเข้าใจผิดว่าการมาปฏิบัติธรรม แค่นั่งสมาธิและเดินจงกลมเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วเคยได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งที่เกาะสีชัง จนได้รู้และเข้าใจว่า การปฏิบัติธรรมไม่จำเป็นต้องต้องเดินหรือนั่งทำเท่านั้น แต่ทุกอย่างที่เราทำคือการปฏิบัติได้ทุกขณะ และทุกกิจกรรมที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นล้างจาน เดิน นั่งนอน อาบน้ำ กินข้าว กวาดวัด รดน้ำผักสวนครัว หรือในชีวิตการทำงานของเรา ฯลฯก็ทำให้เราเกิดสมาธิได้ ถ้าเราตามกำหนดรู้เท่าทันมัน
เคยถามตัวเองมั้ยว่าเราอยากมาปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร แล้วเราจะได้อะไรจากสิ่งนี้ เราได้เรียนรู้อะไร หรือมีพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ คนบางคนก็ไม่สามารถตอบได้เลย แค่รู้ว่าอยากมาปฏิบัติธรรมเท่านั้น คนที่จะมาปฏิบัติธรรมจริงๆ ต้องตอบคำถามเหล่านี้ได้ จึงจะเกิดประโยชน์กับตนเองและจะได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับผู้หญิงอินเทรนดในปัจจุบัน หันหน้าเข้าวัดกันเยอะ เพราะสังคมทุกวันนี้ดูจะสับสนและวุ่นวายกันมาก ทั้งผู้คนและเทคโนโลยีก็แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวัน ทำให้จิตใจของคนเราเต็มไปด้วยความเครียด ความว้าวุ่น และมีผู้หญิงบางกลุ่ม ก็มักจะติดเฟส เล่นไฮ บ้าผู้ชาย ติด บีบี ดื่มสังสรรค์ไปวันๆ จนลืมผู้คนที่อยู่รอบข้างว่า เป็นคนที่มีเนื้อมีจิตใจและมีความรู้สึกเหมือนกัน และก็มักจะลืมแคร์ความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่รู้ตัว อาจจะก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมาทีหลังได้ เทคโนโลยีสมัยนี้ก็ทำให้เราคุยกับตัวเราเองน้อยลง เข้าใจตัวเราเองก็น้อยลงไปด้วย ยิ่งติดเทคโนโลยีมากก็ยิ่งเลิกยากและอาจทำให้เป็นคนที่ไร้ความรู้สึกไปเลย ส่วนผู้หญิงที่พอจะมีสติก็ปลีกตัวเองออกจากสิ่งที่วุ่นวายเหล่านั้น หันมา เข้าวัดนั่งสมาธิ ฟังธรรม หาความสงบสุขที่แท้จริงให้กับตัวเอง เป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ในสมัยนี้ได้ทำกันอยู่แล้ว ทั้งดารา นักร้อง หรือแม้แต่คนในวงการบันเทิง ก็เริ่มสนใจเข้าวัดกันมากขึ้นเช่นกัน และไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีผู้หญิงที่ยังเป็นวัยรุ่นก็มีอยู่เยอะ แต่ก็มีผู้หญิงอีกจำนวนมากที่ยังหาเวลาว่างไม่ได้ มักจะอ้างเรื่องงานเป็นซะส่วนใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วการเข้าวัดฟังธรรม ก็ใช้เวลาไม่มากนัก ถ้าเทียบกับการไปเดินช็อปปิ้ง ดูหนัง ออนเอ็ม เล่นไฮไฟว์ หรือเฟสบุ๊ค แต่นั่นก็คือข้ออ้าง ของคนที่ไม่อยากจะเข้าวัดจริงๆ อันนี้เราก็ไม่ว่ากัน ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ ว่ามีความสนใจทางด้านนี้มากแค่ไหน ส่วนคนที่ต้องการหาสิ่งดีๆให้กับชีวิต จะหาหนทางพัฒนาตนเอง เพื่อพัฒนาจิต พัฒนาใจ ให้เป็นคนที่มีสติ มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ไม่ทุกข์ไม่หลงและไม่ติดกับดัก กับสิ่งที่มาทำให้มัวเมาและลุ่มหลงได้
ผู้หญิงที่ทันสมัยจริงๆ ต้องอัพเดทเรื่องธรรมตลอดเวลา เวลาที่เราเจอเรื่องที่ไม่สบายใจ หรือเป็นทุกข์กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราจะสามารถที่จะรับมือกับมันได้บ้าง เหมือนเราได้เตรียมตัวเตรียมใจ และรู้อยู่แล้วว่าความทุกข์เป็นยังไง แล้วจะรับมือกับมันแบบไหน นั่นคือสิ่งที่ผู้หญิงอย่างๆเราๆ ต้องฝึกกันให้มากๆ แม้ว่ามันจะยากแต่ก็ไม่ง่ายนักที่จะเริ่มต้นกัน อย่าอายที่จะเข้าวัด เพราะทีเข้าผับไม่เห็นจะอายตรงไหน ฉะนั้น สิ่งที่หนีไม่พ้นก็ต้องเรื่องเกี่ยวกับธรรมะ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ธรรมก็ทันสมัยตามกระแสของโลกได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีธรรมะอยู่ในใจ มักจะเข้าใจในธรรมชาติของสิ่งที่มากระทบ เช่นรู้ว่าสุขและทุกข์เป็นเช่นไร ควรละหรือปล่อยมันยังไงไม่ให้เราเกิดความทุกข์ใจหรือลุ่มหลงไปกับมันได้ รู้จักควบคุมอารมณ์ให้ทันความรู้สึกนึกคิดว่าเราทำอะไรคิดอะไรอยู่ แค่นี้ก็พอจะจัดการกับสิ่งที่เรากลัดกลุ้มได้ ผู้หญิงแบบนี้จะเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา มีคุณธรรม มีสติ เวลาเจอปัญหาก็สามารถแก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาดและสุขุม ที่สำคัญจะเป็นผู้หญิงที่สวยมาจากข้างใน ใครได้อยู่ใกล้ๆ ก็มักจะอบอุ่นและทำให้ผู้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย เห็นมั้ยคะว่าผู้หญิงกับธรรมในสมัยนี้ มีดียังไง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น