วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ความสงบขึ้นอยู่กับจิตใจและสถานที่ / ก็เลยไปที่เสถียรธรรมสถาน ใกล้บ้าน

เมื่อเรารู้สึกมีเรื่องวุ่นวายและมีปัญหาที่ไม่สบายใจ ก็อยากจะหาสถานที่สงบๆสักที่ ที่ทำให้เรารู้สึกเงียบผ่อนคลาย หยุดคิดถึงปัญหาต่างๆที่สุ่มอยู่ในหัวสมองของเรา และบรรยากาศต้องมีความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้เราได้เข้าถึงความสงบเงียบจริงๆ อาจจะยังไม่ถึงขั้นต้องเข้าไปนั่งอยู่ในป่า แต่ขอให้มีต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวร่มรื่น มองดูแล้วสดใสสดชื่น อิ่มเอมใจเมื่อเรามองดูอย่างมีความสุข ที่พูดมาจึงต้องยกให้เสถียรธรรมสถานเลยจริงๆ เพราะเมื่อเข้ามาข้างในแล้ว จะได้สัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติทันที แม้ว่าจะอยู่ในตัวเมืองก็ตามและข้างนอกกำแพงก็ยังมีรถลา และผู้คนที่ยังสัญจรวุ่นวายกันอยู่ แต่พอ ก้าวเท้าเข้ามาก็จะต้องตื่นตากับบรรยากาศของเสถียรธรรมสถานอย่างแน่นอน แม้บางวันจะมีคนเข้ามาเยี่ยมชมกันเยอะ แต่ความเป็นธรรมชาติเงียบสงบก็ยังคงมีอยู่ เมื่อเราทำใจของเราให้เงียบสงบ มันก็จะสงบตาม เราก็แค่นั่งหลับตาผ่อนคลาย หายใจเข้าออกตามลม หยุดคิดถึงปัญหาที่เข้ามาในชีวิต นั่งดูลมหายใจของเราไปเรื่อยๆ พอนั่งไปได้สักพัก ความสงบก็จะเกิดขึ้นกับเรา จะมากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับว่าในขณะนั้นเราคิดเรื่องอะไร ถ้ายังมีเรื่องให้คิดเยอะผุดขึ้นมาในสมอง ความสงบก็จะน้อย แต่ถ้าเราพยายามที่จะหยุดคิด แน่นอนว่าความสงบที่เราจะได้มากนั่นย่อมจะเกิดกับเราอย่างมากแน่นอน ปัญหาต่างๆที่เรายังแก้ไม่ตก หรือ ยังหาทางออกไม่ได้ มันก็เริ่มจะมีทางออกมารอเราอยู่ เมื่อเราเกิดความสงบ ปัญญาก็จะเกิด อันนี้เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้วหลายครั้ง บางครั้งเราคิดจะหาทางออก แต่มันก็ยังนึกไม่ออกว่าจะทำยังไงดี พอใจเราสงบ จิตเราสงบ ทางออกก็มีผุดขึ้นมาทันที คล้ายๆกับว่าปัญญาเกิดนั่นเอง นี่เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะ ส่วนคนอื่นจะคิดอย่างเดียวกันมั้ยนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่ถูกและแน่นอนที่สุดคือ เมื่อเรามีสมาธิ ก็จะเกิด ปัญญา ตามมา และถ้าสมาธิเรามากขึ้น สิ่งดีๆต่างก็ย่อมมีมา อันนี้คงต้องใช้เวลาในการศึกษาและปฏิบัติเองจึงจะรู้ สำหรับตัวเองคิดว่าคงต้องฝึกและปฏิบัติอีกเยอะกว่าจะถึงขั้นนั้น แต่สำหรับคนทั่วไปที่ยังไม่คิดที่จะเข้ามาศึกษาในทางนี้ ก็เอาแค่มีความสงบเงียบภายในจิตในใจไปก่อนก็คงพอแล้ว แค่นี้ก็คงยากสำหรับบางคนอยู่นะ เพราะว่าในปัจจุบันสังคมเมืองทุกวันนี้ วุ่นวาย แข่งขัน แก่งแย่ง กันต่างๆนานา ยิ่งต้องทำมาหาเลี้ยงชีพแล้วหล่ะก็ แทบจะไม่หยุดคิดที่จะหาความเงียบสงบกันเลยทีเดียว คิดอย่างเดียวว่าต้องหาเงิน มาอยู่มากิน บางครั้งเราก็ลืมไปบ้างว่าจริงๆแล้วเราต้องการความสุขแบบ เรียบง่าย ความเงียบ ความสงบบ้าง ถ้าเมื่อใดที่เราเคลียดกับงานหรือปัญหาต่างๆ อยากให้ลอง นั่งหลับตาแล้วก็หยุดคิดถึงเรื่องนั้นๆ ดู เชื่อว่านั่งไปจะเกิดความสุขและความสงบอย่างแน่นอนเลย ต้องทำอย่างจริงจังนะ ไม่ใช่นั่งหลับตาแต่ยังคิดถึงปัญหาอยู่อย่างนั้นมันก็ วนเวียนอยู่ในหัวสมองเรา จะหาทางออกก็หาไมเจอ อย่างนี้คงจะหาทางออกไม่ได้แน่เลย ถ้าอยากหาทางออก ก็ต้องทำให้เรามีความสงบนิ่ง ในจิตในใจเราก่อน แล้วเดี๋ยวเราก็จะรู้เองว่าอะไรเป็นอะไร





วันนั้นตั้งใจอยากไปที่เสถียรฯ มากเพราะว่าถ้านั่งคิดหาทางออกอยู่กับบ้านคงจะคิดไม่ออกแน่เลย จึงได้ไปที่เสถียรฯอีกครั้ง วันนั้นตรงกับวันศุกร์ ช่วงประมาณบ่ายสองผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรมก็เริ่มทยอยมาลงทะเบียนเข้าพัก เราไม่ได้รู้สีกว่าจะดูวุ่นวายอะไร ก็ทำตัวตามปรกติ เพราะตั้งใจที่จะมาหามุมสงบๆ นั่งมองดูบรรยากาศธรรมชาติ พักผ่อนสมอง ที่มีแต่เรื่องมากมายให้คิดอยู่ตลอดเวลา ให้รู้สึกว่าปลดปล่อยมันออกไปบ้างก็ดี ได้ไปซื้อกาแฟสดและก็มานั่งที่เก้าอี้เล็กๆ อ่านหนังสือธรรมะได้แป็บนึงก็ได้ยินเสียงเทศน์จากแม่ชี ที่เป็นแผ่นซีดีเปิดเสียงตามสาย ท่านเทศน์ไว้ดีมากเกี่ยวกับ อาณาปาณสติ และก็เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม วิธีนั่งสมาธิ นั่งจิบกระแฟเย็นไปก็มีความรู้สึกว่า ลองหลับตาตั้งใจฟังหน่อยสิ พอฟังไปก็ชอบ เพราะเป็นเรื่องที่เราอยากรู้อยู่พอดี พอนั่งไปสักพักรู้สึกจิตก็เริ่มสงบลง นั่งไปอีกสักพัก เริ่มจะง่วง ก็เลยเริ่มใหม่ นั่งใหม่ เอาสติมาฟังคำเทศน์ใหม่ ฟังแล้วรู้สึกมีความสุขอยู่ตลอดเวลาเลย อากาศและบรรยากาศก็ดี เงียบก็เงียบ แถมร่มรื่นอีก ทำไมรู้สีกมีความสุขอย่างนี้ ก่อนจะกลับก็เลยได้ไปกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อขอพรให้เราเกิดปัญญา สมาธิ และก็สิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิต จากนั้นก็นั่งสมาธิต่อไปอีกประมาณ 15 นาที ในใจอยากจะนั่งให้ได้นานกว่านี้ เวลาตอนนั้นมันเย็นมากแล้ว ก็เลยต้องรีบกลับบ้าน กลัวว่าประตูจะปิด วันนี้รู้สึกมีความสุขมาก ที่ได้ใช้เวลาครึ่งวันเพื่อทำให้ใจสงบและก็เป็นการพักผ่อนไปได้ในตัว เอาไว้มีโอกาสคงไม่พลาดที่จะมาเป็นประจำ หวังว่าคงจะได้พาคนอื่นๆ และเพื่อนๆที่สนใจอยากจะมีจิตใจสงบ และต้องการพักผ่อนสมอง มาเยี่ยมชมและได้สัมผัสกับธรรมชาติที่เสถียรธรรมสถานฯในครั้งต่อไป

2 ความคิดเห็น:

  1. อยากไปเหมือนกันนะค่ะ แต่กำลังหาโอกาสอยู่ ตั้งใจสองครั้งแล้วว่าจะไปแต่ก็มาเจออุปสรรค์ทุกที ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
    มีอยู่หลายช่วงที่เครียดหนักๆอยู่ไม่รู้จะทำยังงัยดี ได้แต่ร้องไห้ แต่ตอนนี้อยู่ดีๆไม่รู้เป็นไรอยู่ดีๆก็อยากร้องไห้ซะงั้นทั้งๆที่ไม่ได้คิดหรือเครียดอะไรเลย เป็นเพราะอะไรค่ะ แต่เวลาที่หนูไม่สบายใจวันนั้นหนูเหลือบไปเห็นรูปภาพของแม่ชี.....หนูเห็นรอยยิ้มของท่านแล้วรู้สึกมีความสุขยังงัยไม่รู้
    แต่สุดท้ายทุกครั้งที่หนูอยู่คนเดียวก็ปวดหัวแล้วก็อยากร้องไห้ทุกที
    แต่หนูได้อ่านบทความของ K.Tko savaijai แล้ว ก็ยิ่งอยกาไปค่ะ

    ตอบลบ
  2. แนะนำว่าถ้ามีโอกาส ตัดสินใจไปเลยค่ะ รับรองว่าไปแล้วมีความสุข และสถานที่เงียบสงจริงๆ

    ตอบลบ